Thai Chinese (Traditional) English French Italian Portuguese Russian
พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ วัดโพรงจระเข้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สืบทอดพระพุทธศาสนา
นำทางสู่การพ้นทุกข์

 

ขุททกนิกายภาค ๑

เอกนิบาต

๑๑. ปโรสตวรรค

ทุพพลกัฏฐชาดก

ว่าด้วยช้างกลัวไม้แห้ง

 

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุขลาดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.

ได้ยินว่า ภิกษุนั้นเป็นกุลบุตรชาวพระนครสาวัตถีผู้หนึ่ง ฟังธรรมของพระศาสดาแล้วบรรพชา ได้เป็นผู้กลัวตายยิ่งนัก เธอได้ยินเสียงลมพัด เสียงไม้แห้งตก หรือเสียงนก เสียงจตุบท ก็สะดุ้งกลัวจะตาย ร้องเสียงลั่นวิ่งหนีไป เพราะความระลึกว่า เราต้องตาย ก็ไม่มีแก่เธอเสียเลย ก็ถ้าเธอพอจะรู้ว่า เราต้องตายดังนี้ ก็จะไม่กลัวตาย แต่เพราะเธอไม่เคยเจริญมรณัสสติกัมมัฏฐานเลย จึงกลัว

ความกลัวตายของเธอแพร่หลายไปในหมู่ภิกษุ ภายหลังวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายยกเอาเรื่องนี้ขึ้นพูดกันในธรรมสภาว่า “ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุโน้น ขลาดต่อความตาย กลัวตาย ธรรมดาภิกษุควรจะเจริญมรณัสสติกัมมัฏฐานว่า เราต้องตายแน่นอน ดังนี้”

พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไรเล่า”

ครั้นภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว มีรับสั่งให้หาภิกษุนั้นมาเฝ้า ตรัสถามว่า

“จริงหรือ ที่เขาว่า เธอเป็นคนกลัวตาย”

เมื่อภิกษุนั้นกราบทูลว่า “จริงพระเจ้าข้า”

ตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าเสียใจต่อภิกษุนี้เลย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่ภิกษุนี้เป็นผู้กลัวตาย แม้ในกาลก่อน เธอก็เป็นผู้กลัวตายเหมือนกัน”

แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นรุกขเทวดา ในป่าหิมพานต์ ในครั้งนั้น พระเจ้าพาราณสีทรงมอบมงคลหัตถีของพระองค์ให้แก่พวกนายหัตถาจารย์ เพื่อให้ฝึกหัดถึงเหตุ แห่งความไม่พรั่นพรึง พวกนายหัตถาจารย์จึงมัดช้างนั้นที่เสาตะลุง อย่างกระดุกกระดิกไม่ได้ พวกมนุษย์พากันถือหอกซัด พากันเข้าล้อม กระทำให้เกิดความพรั่นพรึง ช้างถูกเขาบังคับ ดังนั้น ไม่อาจอดกลั้นเวทนาความหวั่นไหวได้ ทำลายเสาตะลุงเสีย ไล่กวดมนุษย์ให้หนีไป แล้วเข้าป่าหิมพานต์ พวกมนุษย์ ไม่อาจจะจับช้างนั้นได้ก็พากันกลับ ช้างนั้นได้เป็นสัตว์กลัวตาย เพราะเรื่องนั้น ได้ยินเสียงลมเป็นต้น ก็ตัวสั่น กลัวตาย ทิ้งงวง วิ่งหนีไปโดยเร็ว เป็นเหมือนเวลาที่ถูกมัดติดเสาตะลุง ถูกบังคับ ไม่ให้พรั่นพรึงฉะนั้น ไม่ได้ความสบายกาย หรือความสบายใจ มีแต่ความหวั่นระแวงเที่ยวไป รุกขเทวดาเห็นช้างนั้นแล้ว ยืนบนคาคบไม้ กล่าวคาถานี้ความว่า :

"ลมย่อมพัดไม้แห้ง ที่ทุรพลในป่านี้แม้มีจำนวนมากมาย ให้หักลง

แน่ะ ช้างตัวประเสริฐ ถ้าท่านยังกลัวต่อไม้แห้งนั้น

ท่านจักซูบผอมเป็นแน่" ดังนี้.

อธิบายได้ดังนี้ : ลมต่าง ๆ เช่นลมที่มาแต่ทิศบูรพาเป็นต้น ย่อมระรานต้นไม้ที่ไม่สมบูรณ์ ต้นไม้เช่นนั้นมีมากมายในป่านี้ ถ้าเจ้ากลัวลมนั้นก็จำต้องกลัวอยู่เป็นนิจ จักต้องถึงความสิ้นเนื้อ และเลือด เหตุนั้น ตั้งแต่นี้ต่อไป อย่ากลัวเลย.

เทวดาให้โอวาทแก่ช้างนั้น ด้วยประการฉะนี้ ตั้งแต่นั้นมา แม้ช้างนั้นก็หายกลัว.

พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม แล้วทรงประชุมชาดกนี้ว่า

ช้างในครั้งนั้น ได้มาเป็นภิกษุนี้

ส่วนรุกขเทวดา ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ ทุพพลกัฏฐชาดก

อรรถกถาชาดกพระเจ้า 547 พระชาติ

เชิญร่วมบุญ